น้อง ๆ คนไหนที่กำลังมีแพลนไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ หรือ UK หากไม่รู้ว่าควรจะเริ่มจากตรงไหน และควรเตรียมตัวอย่างไร SI-UK เรามีคำแนะนำดี ๆ สำหรับการเตรียมตัวล่วงหน้ามาฝากกัน Checklist เตรียมตัวก่อนไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ หรือ UK ข้อมูลที่ครบที่สุดอยู่ที่นี่แล้ว เพราะเตรียมตัวดีมีชัยไปกว่าครึ่ง! ยิ่งเรารู้และพร้อมเร็วเท่าไหร่ ยิ่งสร้างความได้เปรียบและความมั่นใจได้มากเท่านั้น!

Checklist เตรียมตัวให้พร้อมก่อนไปเรียนต่อที่ UK 

1. ค้นหาหลักสูตร และมหาวิทยาลัยที่สนใจ                                   

น้อง ๆ คงจะมีไอเดียเกี่ยวกับการไปศึกษาต่อกันบ้างแล้ว เช่น สาขาวิชาที่ต้องการเรียน เมืองที่ต้องการอยู่ หรือกระทั่งมหาวิทยาลัยที่ต้องการสมัคร แต่อาจจะยังไม่ทราบรายละเอียดปลีกย่อย หรือข้อกำหนดในการรับเข้าศึกษาของแต่ละหลักสูตร แต่ละมหาวิทยาลัย ดังนั้นขอแนะนำให้หาข้อมูลมากที่สุดเท่าที่ทำได้ เช่น ระบบการคัดเลือกหรือสมัครเรียนในอังกฤษ หรือสหราชอาณาจักรแบบ UCAS  โดยน้อง ๆ สามารถปรึกษาเอเยนต์ของน้อง ๆ เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับหลักสูตรและมหาวิทยาลัยที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของเรามากที่สุดในตัวลือกที่จำกัด

2. เตรียมคะแนนผลสอบ IELTS

IELTS เป็นการทดสอบประเมินความสามารถด้านภาษาอังกฤษของนักเรียนที่ต้องการเรียนต่อในสหราชอาณาจักร โดยการทดสอบทั้ง 4 ทักษะ ได้แก่ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ซึ่งเป็นข้อสอบที่แตกต่างกันออกไป มหาวิทยาลัยหรือสถาบันอุดมศึกษาทุกแห่งในสหราชอาณาจักรให้การยอมรับผลคะแนนสอบ IELTS เพื่อเป็นหลักฐานการยืนยันความสามารถทางภาษาอังกฤษของนักเรียน ดังนั้น เมื่อน้อง ๆ ทราบแล้วว่าหลักสูตรและมหาวิทยาลัยน้อง ๆ ต้องการจะสมัครต้องใช้คะแนน IELTS ที่เท่าไหร่ ก็ควรเตรียมพร้อมสำหรับการสอบ และตั้งเป้าคะแนนให้ได้ตามนั้น

สำหรับการทดสอบ IELTS นั้น จะมีการประเมินคะแนนในระดับ 1 – 9 ซึ่งคะแนนตั้งแต่ 5.5 สำหรับนักเรียนทั่วไป ถือว่าเป็นคะแนนกลาง ๆ และสามารถช่วยให้น้อง ๆ สามารถเข้าเรียนต่อในสหราชอาณาจักรได้ในบางหลักสูตร แต่ในสาขาวิชาเฉพาะทางสำหรับปริญญาตรี และระดับปริญญาโทนั้นน้อง ๆ จะต้องมีผลคะแนนสอบ IELTS อยู่ที่ 6.5 ขึ้นไป ซึ่งหมายความว่านักเรียนจะมีตัวเลือกในหลักสูตร และมหาวิทยาลัยเพิ่มขึ้นเช่นกัน 

3. เตรียมเอกสารสำคัญต่าง ๆ

ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเอกสารหลักฐานส่วนตัวต่าง ๆ เช่น

  • หนังสือเดินทาง (Passport)
  • ตั๋วเครื่องบินโดยสาร
  • เอกสารสำคัญทางการศึกษา ใบแสดงผลการเรียน (Transcript) ปริญญาบัตร
  • จดหมายแนะนำตัว (Statement of Purpose: SOP)
  • จดหมายรับรอง (Letters of Recommendation)
  • หลักฐานทางด้านการเงิน (Bank Statement) รวมทั้งหลักฐานการโอนเงินมัดจำต่าง เช่น ค่าหอ ค่าเทอม ที่ควรบริหารจัดการให้เรียบร้อยก่อนยื่นของวีซ่า

4. ศึกษาเรื่องของวีซ่า UK

ศึกษาไว้ล่วงหน้าเลยว่า ต้องเราจำเป็นต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง และมีข้อกำหนดในการขอวีซ่านักเรียนว่าอย่างไรบ้าง และอย่าลืมคอยอัพเดทอยู่เรื่อย ๆ เผื่อว่าข้อกำหนดในการยื่นขอวีซ่าในแต่ละปี อาจมีการเปลี่ยนแปลง นั่นเอง

5. เตรียมตัวจัดกระเป๋าเดินทาง

โดยปกติแล้ว สายการบินส่วนใหญ่จะอนุญาตให้ผู้ที่จะเดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศนำสิ่งของไปได้ น้ำหนักของกระเป๋าขึ้นอยู่กับแต่ละสายการบิน ควรนำไปในปริมาณที่พอเหมาะ โดยน้อง ๆ สามารถแยกเป็น 2 กระเป๋าใหญ่ หรือจะนำไปเพียงกระเป๋าเดียวก็ได้ นอกจากนี้อาจจะมีกระเป๋าใบเล็กที่ติดตัวขึ้นเครื่อง น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม ไว้สำหรับเก็บเอกสารสำคัญทางการเรียน หรือเอกสารแสดงตัวตนที่อาจจะต้องนำออกมาที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเมื่อถึงสหราชอาณาจักร (UK) หากเจ้าหน้าที่เรียกตรวจ เช่น Passport SVV หรือ CAS (ใบตอบรับจากทางมหาวิทยาลัย) ใบผลตรวจปอด (IOM) ใช้สำหรับน้อง ๆ ที่อยู่ในอังกฤษเกิน 6 เดือนขึ้นไป และเอกสารรับรองที่พัก เป็นต้น

ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ใบโตของเราควรมีอะไรอีกล่ะ ?

  • เครื่องแต่งกาย เสื้อผ้าต่าง ๆ ถุงเท้า ถุงมือ รองเท้า แนะนำให้เช็คสภาพภูมิอากาศก่อน นำไปเท่าที่จำเป็น เพราะเราสามารถหาซื้อได้ที่นั่นอยู่แล้ว จะได้ไม่ต้องแบกหนักด้วย
  • สำหรับผู้ที่มีปัญหาสายตา ควรนำแว่นสายตาติดไปอย่างน้อย 2 อันเพราะการตัดแว่นใหม่ที่ประเทศอังกฤษจะต้องทำการนัดกับจักษุแพทย์ ซึ่งระยะเวลาการนัด การตรวจวัด และรอแว่นใหม่อาจเป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน และราคาแพงกว่าเมืองไทยมาก และใครที่ใช้คอนแทคเลนส์ ควรนำไปหลายชุดให้พอเพียง พร้อมน้ำยาล้างเลนส์ เพราะราคาน้ำยาล้างเลนส์ที่อังกฤษแพงกว่าเมืองไทยหลายเท่าตัวเช่นกัน
  • ยารักษาโรค ในสหราชอาณาจักร การซื้อยามาทานเองเป็นเรื่องยากพอควร ยาที่หาซื้อได้ทั่วไปเป็นเพียงแค่ยาธรรมดาอย่งา พาราเซตามอล ยาแก้หวัดต่าง ๆ ต้องให้แพทย์เป็นคนสั่ง แล้วจึงนำใบสั่งยามาซื้อเองตามร้านขายยา หากใครมีโรคประจำตัว ควรพกยาที่จำเป็นมาเองดีกว่า 
  • อาหารแห้งต่าง ๆ แนะนำให้พกอาหารสำเร็จรูป อาหารแห้งไปบ้าง เพราะเรายังไม่ทราบแหล่งที่ไปอยู่สักเท่าไร ว่าจะมีซุปเปอร์มาร์เก็ตตรงไหนบ้าง หรือบางคนทำอาหารเป็น อาจจะซื้อผงพริกแกง ผงปรุงรสมาด้วยก็ได้
  • อุปกรณ์เครื่องเขียน จริง ๆ ที่นี่ก็มีขายแต่ราคาค่อนข้างสูงนิดนึง แต่สิ่งที่หาซื้อได้ยากหน่อยก็คือพวกดินสอกด ไส้ดินสอ เพราะเขาไม่นิยมใช้ดินสอ ส่วนใหญ่ที่นี่จะใช้ปากกาดำกัน
  • Laptop เป็นอีกสิ่งที่ควรเตรียมมา เพราะที่อังกฤษไม่มีเครื่องภาษาไทยขาย และจะหาเปลี่ยนก็ไม่ได้ คีย์บอร์ดก็เป็นคนละแบบกันด้วย
  • Adaptor ประเทศอังกฤษมีปลั๊กไฟ ไม่เหมือนบ้านเรา! ดังนั้นอย่าลืมพกอะแดปเตอร์ที่สามารถใช้กับปลั๊กไฟที่นั่นได้ไปด้วยนะคะ

6. สิ่งที่ควรรู้ก่อนเดินทาง

  • วัฒนธรรมชาว Local การไปต่างประเทศ สิ่งที่ควรทราบก็คือวัฒนธรรมของประเทศนั้น ๆ UK ก็เป็นประเทศที่ค่อนข้างใหญ่ หากกลัวทำอะไรผิดพลาด ไม่ถูกใจใคร ลองอ่าน Do & Don’t เมื่อไปเรียนที่สหราชอาณาจักร (UK) เพื่อศึกษาเบื้องต้นดูก่อนก็ได้นะคะ
  • การเดินทางในสหราชอาณาจักร มีขนส่งสาธารณะแบบไหนบ้าง คลิก! รู้ไว้! ไม่มีหลง (ทาง) รวมทุกการเดินทางในสหราชอาณาจักร (UK) 
  • ควรนำเงินสดไปให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในช่วงเดือนแรกเท่านั้น หรืออาจนำไปมากกว่านี้ในกรณีที่ต้องจ่ายค่ามัดจำ หรือค่าเช่าในช่วงเดือนแรก บัตรเครดิตจากไทย สามารถนำไปใช้ได้เช่นกัน
  • การเปิดบัญชีธนาคาร ทางอังกฤษค่อนข้างเข้มงวดมาก โดยเฉพาะกับนักเรียนต่างชาติ เอกสารที่ใช้ก็มากกว่าที่อื่น เพราะบัญชีธนาคารที่อังกฤษสามารถนำไปทำธุรกรรมอื่น ๆ ได้อีกเหมือนกับที่ชาวอังกฤษทำได้ เช่น การกู้เงินหรือการทำสัญญาต่าง ๆ ซึ่งนักเรียนที่จะเปิดบัญชีในอังกฤษได้นั้นต้องอยู่ในประเทศอังกฤษตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป เอกสารที่ใช้ในการเปิด ได้แก่  Passport และหนังสือรับรองการเรียนต่อต่างประเทศจากสถานศึกษาที่เราเรียน
  • ติดต่อกับสถาบันที่จะเข้าเรียน แจ้งให้ทางมหาวิทยาลัย และทางที่พักทราบว่าเราจะเดินทางไปถึงวันไหน สายการบินอะไร เวลากี่โมง แล้วมหาวิทยาลัยมีบริการมารับนักศึกษาต่างชาติที่สนามบินหรือไม่
  • ถึงแล้วต้องติดต่อ Post Office สำหรับบุคคลต่างชาติที่มีความประสงค์จะเดินทางไปประเทศอังกฤษเป็นระยะเวลา 6 เดือนขึ้นไป จะต้องดำเนินการขอรับ Biometric Residence Permit (BRP) โดยต้องติดต่อกับ Post Office ที่ใกล้สถานที่พักหรือที่สะดวก เพื่อขอรับจดหมาย BRP ต้องดำเนินการภายในระยะเวลา 10 วันเท่านั้น หลังจากได้รับจดหมายทางไปรษณีย์แล้วต้องนำเอกสารที่ได้รับ นำไปดำเนินการลงทะเบียนออนไลน์ต่อ โดยมีระยะเวลา 30 วันในการลงทะเบียนออนไลน์นับจากวันแรกที่เดินทางถึง UK
  • สนามบินในอังกฤษ ที่นี่มีสนามบินอยู่หลายแห่ง หลายเที่ยวบินและเส้นทางก็เยอะมาก หากเดินทางจากประเทศไทย แล้วไม่ได้ไปลงเมืองใหญ่ เช่น London, Manchester หรือ Edinburgh ก็อาจจะไม่มีเที่ยวบินตรงเพื่อไปให้ถึงจุดหมายที่ต้องการ ก็จะต้องต่อเครื่อง ซึ่งจะเสียเวลาเพิ่มขึ้น ดังนั้นอย่าลืมตรวจสอบข้อมูลให้รอบคอบ
  • ควรตรวจฟันก่อนเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ เพราะประกันสุขภาพนักศึกษาไม่ได้ครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายทางทันตกรรมซึ่งราคาสูง จึงควรตรวจฟันและรักษาก่อนเดินทาง หรือสามารถใช้บริการระบบสาธารณะสุขในประเทศอังกฤษ (General Practitioner) ที่นี่ให้บริการคนอังกฤษ รวมถึงนักศึกษาต่างชาติโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น แต่จะต้องติดต่อขอลงทะเบียนในพื้นที่อาศัยของตนเองก่อน การใช้บริการเมื่อเจ็บป่วยหรือต้องการการรักษา ให้โทรไปที่ศูนย์ GP ในพื้นที่ของตนเอง เพื่อทำการนัดจองก่อน

7. โทรศัพท์และ Internet ใน UK

  • โทรศัพท์ อัตราค่าโทรศัพท์ขึ้นอยู่กับระยะทางและระยะเวลาที่ใช้ การโทรศัพท์ออกนอกประเทศ สอบถามค่าบริการอีกครั้งด้วยการกดไปที่หมายเลข 155 หากโทรศัพท์โดยผ่านโอเปอเรเตอร์ต้องเสียค่าบริการมากกว่าโทรโดยตรง หากจะโทรศัพท์มาประเทศไทยด้วยโทรศัพท์สาธารณะต้องกด : 00+66+รหัสเมือง+หมายเลขที่ต้องการ และอย่าลืมจดเบอร์โทรที่ควรทราบอย่างสถานทูต และกงสุลไทยประจำประเทศอังกฤษ โทร. 020 75890173 Fax 020 75892944 หรือเบอร์ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดับเพลิง ฉุกเฉินอื่นๆ โทร. 999
  • โทรศัพท์มือถือ นักเรียนสามารถนำโทรศัพท์จากเมืองไทยไปใช้ประเทศอังกฤษได้ มีหลายเครือข่ายโทรศัพท์ให้เลือกใช้ เช่น Vodafone, O2, T-Mobile, Three (3) และผู้ให้บริการระหว่างประเทศในราคาประหยัด เช่น Lebara สำหรับซิมการ์ด สามารถหาซื้อได้ที่สนามบิน หรือร้านโทรศัพท์มือถือทั่วไป การเติมเงิน เติมผ่านบัตรเติมเงินที่ซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป
  • Internet และ Wi-Fi มีทั่วไปในเมืองใหญ่ของอังกฤษ โดยเฉพาะตามโรงแรม โฮสเทล เกสต์เฮาส์ คาเฟ่ และร้านกาแฟ ส่วน Internet Café จะอยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวหลัก ๆ

Study in the UK

สำหรับน้อง ๆ ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียนต่ออังกฤษ เช่น หลักสูตร คุณสมบัติ และขั้นตอนการสมัครเรียนที่ มหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศอังกฤษ สามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับคำปรึกษากับเจ้าหน้าที่ของ SI-UK ฟรี! ได้ตั้งแต่วันนี้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ